ข่าววันนี้

ดีแคลน ไรซ์ นักเตะที่จะเข้าสู่ทีมด้วยค่าตัวที่สูงที่สุด ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา

ดีแคลน ไรซ์ นักเตะที่จะเข้าสู่ทีมด้วยค่าตัวที่สูงที่สุด ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา

ดีแคลน ไรซ์ นักเตะที่จะเข้าสู่ทีมด้วยค่าตัวที่สูงที่สุด ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา 2022-23 เป็นฤดูกาลที่อาร์เซนอล ใกล้เคียงกับการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุด ต่อจากฤดูกาลแชมป์ไร้พ่าย เมื่อปี 2003-04 โดยช่วงฤดูกาล 2022-23 เป็นฤดูกาลที่อาร์เซนอล เคยจารึกสถิติหรูรักษาตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเอาไว้ได้ถึง 248 วัน

ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดที่เคยมีนับตั้งแต่มีการก่อตั้งลีกสูงสุดใหม่ของอังกฤษเมื่อปี 1992 และใครหลายๆ คนก็คงคิดว่าอาร์เตต้าเตรียมพาทีมชูโทรฟี่ลีกสูงสุดของอังกฤษเป็นแน่แท้ “ดีแคลน ไรซ์น่าเสียดายที่พลพรรคปืนใหญ่กลับไปไม่ถึงฝั่งฝันเพราะพวกเขาดันมาสะดุดขาตัวเองในช่วงตัดสินแชมป์โค้งสุดท้าย ดังนั้น เรื่องสำคัญที่สุดและเป็นการต่อยอดสู่การต่อสู้ในปีต่อๆ ไปก็คือการเติมแกร่งเพื่อให้ทีมก้าวไปให้ไกลยิ่งกว่าเดิม ซึ่งการหาตัวใหม่ๆ มาทดแทนและหมุนเวียนโอกาสลงสนามของขุมกำลังชุดปัจจุบันที่วันใดวันหนึ่งอาจเจ็บอาจต้องโทษแบน

โดยหนึ่งในปัจจัยที่ส่งเสริม ก็คือการเสริมทัพในตลาดนักเตะ มิเกล อาร์เตต้า ร่วมด้วยความเห็นที่ตรงกันกับบอร์ดบริหาร มองการเสริมแกร่งในตลาดซื้อขายรอบซัมเมอร์ 2023 ด้วยความรอบคอบกับความสนใจผู้เล่นในสามตำแหน่งในทางทฤษฎี คือ กองหลัง-กองกลาง-กองหน้า แต่ในทางปฏิบัติคือสามารถเล่นได้มากกว่าหนึ่งตำแหน่ง

ดีแคลน ไรซ์

      ดีลแรกเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายน อาร์เซนอลดึง ไค ฮาแวร์ตซ์ ดาวเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งกองกลางตัวรุก รวมถึงกองหน้ามาจาก เชลซี ด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์ ตามด้วยแนวรับอย่าง เจอร์เรียน ทิมเบอร์ จาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ และยังมีนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์อีกรายที่พวกเขามีข่าวเชื่อมโยงมาก่อนฮาแวร์ตซ์และทิมเบอร์ด้วยซ้ำ ก็คือผู้เล่นในตำแหน่งสุดท้ายอย่างกองกลาง นาม “ดีแคลน ไรซ์”

ซึ่งสุดท้ายแล้วในวันที่ 15 กรกฎาคม 2023 ปืนใหญ่ประกาศผ่านเว็บไซต์ทางการว่าพวกเขาคว้าอดีตซูเปอร์สตาร์ของเวสต์แฮม มาสวมยูนิฟอร์มปืนใหญ่ ด้วยสัญญาระยะยาว (Long-term contract) ตามประกาศสโมสร พร้อมค่าตัวที่ว่ากันว่าสูงถึง 105 ล้านปอนด์ (เริ่มต้น 100 ล้านปอนด์ แอดออน 5 ล้านปอนด์) และทำให้เขากลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์ทัพปืนโตในทันที

การมาของ ดีแคลน ไรซ์ ทำให้อาร์เซนอลมีหวังอีกครั้ง

      ย้อนกลับไปก่อนที่ “ไรซ์” จะเป็นนักเตะป้ายแดงอาร์เซนอล ว่ากันว่ายอดทีมแห่งลอนดอนเหนือแสดงความสนใจแข้งรายนี้มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 ซึ่ง ณ เวลานั้นมีหลากปัจจัยที่ยังไม่ลงเอยกัน และกว่าที่อาร์เซนอลเซ็นสัญญาดึงตัวเขามาร่วมทีมด้วยความชื่นมื่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทัพปืนใหญ่เองก็เดินหน้ายื่นข้อเสนอให้เวสต์แฮมพิจารณาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งสุดท้ายแล้วสื่อทุกสำนักรายงานตรงกันว่าค่าตัวของ ไรซ์ ที่อาร์เซนอลสู่ขอกับเวสต์แฮม จบลงที่ราคา 105 ล้านปอนด์ แบ่งเป็นค่าตัวเริ่มต้น 100 ล้านปอนด์ กับแอดออน 5 ล้านปอนด์ รับค่าเหนื่อยราว 250,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

คำถามที่ตามมาคือ ทำไมอาร์เซนอลถึงยอมทุ่มหนักเพื่อดึงดาวเตะรายนี้มาเติมแกร่ง ซึ่งเมื่อเราพิจารณาจากผลงาน ไปจนถึงสถิติที่ผ่านมาของดีแคลน อย่าลืมว่านี่คือนักเตะที่ทีมใหญ่ๆ เกือบทุกทีมในพรีเมียร์ลีกตามหาและอยากได้มาอยู่ร่วมชายคา แฟนฟุตบอลอาจจดจำรูปแบบและแนวทางการเล่นของ ไรซ์ ในฐานะมิดฟิลด์หมายเลข 6 คือคอยสกรีนคู่แข่งหน้าแผงเกมรับ

แน่นอนว่านี่คือตำแหน่งแจ้งเกิดของไรซ์ร่วมกับทีมเวสต์แฮม โดย ไรซ์ ทำหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวได้อย่างโดดเด่น ตัวอย่างในฤดูกาล 2022-23 กองกลางเบอร์ 41 สถิติแย่งบอลกลับมาครอง (Possession wins) 334 ครั้ง รวมถึงทำสถิติตัดบอล (Interceptions) คู่แข่ง สูงถึง 63 ครั้ง มากกว่านักเตะคนอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก

นอกจากเกมรับที่แข็งแกร่ง เขายังปรับตัวเองมาเป็นตัวรุกด้วย
นอกจากเกมรับที่แข็งแกร่ง เขายังปรับตัวเองมาเป็นตัวรุกด้วย

      ขณะเดียวกัน ดีแคลน ไรซ์ ยังอัปเกรดตัวเองเป็นมิดฟิลด์ที่มีความครบเครื่องในหน้าที่อื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น สถิติการพาบอลขึ้นหน้า (Progressive carries) ในซีซั่นก่อน แตะหลัก 315 ครั้ง ส่วนอัตราจ่ายบอลสำเร็จ (Pass accuracy) สูงถึงร้อยละ 88 พ่วงด้วยสถิติทำประตูและแอสซิสต์ในลีกรวมกันถึง 6 ลูก นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้จะเข้ามาเล่นในตำแหน่งของ โธมัส ปาเตย์ ในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับของทีมเท่านั้น เพราะความครบเครื่องของเขา ซึ่งสถาปนาตัวเองก็นักเตะประเภท บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ไปแล้ว เขาอาจจะไปยืนแทนที่ กรานิต ชาก้า ที่เพิ่งย้ายออกจากทีมไป

      ไรซ์พร้อมจะเป็นตัวแปรให้ทีมของอาร์เตต้าในแง่ของวิธีการเล่นและการเข้าทำในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน เขายังมีความสม่ำเสมอกับการปรากฎตัวในสนาม เขาไม่ค่อยเจ็บหนักหรือโดนโทษแบนยาว คิดเป็นตัวเลขนับแต่ซีซั่น 2018-19 ไรซ์ไม่เคยลงเล่นในลีกแต่ละขวบปีด้วยตัวเลขที่ต่ำกว่า 32 นัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฤดูกาล 2019-20 เขาลงสนามครบ 38 เกม ขณะที่ฤดูกาลสุดท้ายกับเวสต์แฮม ดีแคลน ทำสถิติลงเล่น 37 นัดด้วยกัน 

      ตัวอย่างข้างต้น แสดงให้เห็นถึงข้อดี เห็นถึงประโยชน์ที่อาร์เซนอลจะได้รับจากดาวเตะรายนี้ ที่เหลือก็คือผลงานในสนาม และจะดียิ่งขึ้นกว่านี้อีกหากเขายกระดับฟอร์มไปพร้อมๆ กับผลงานทีม นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษอีกบางประการที่ทำให้รู้ว่าอาร์เซนอลต้องการตัวของไรซ์มากจริงๆ นั่น คือ แผนงานของสโมสรและการโน้มน้าวใจของผู้จัดการทีม มิเกล อาร์เตต้า ตลอดจนเป้าหมายส่วนตัวของนักเตะเองที่พร้อมจะงัดฟอร์มการเล่นช่วยทีมประสบความสำเร็จ ซึ่งเมื่อความพยายามและความตั้งใจของทั้งอาร์เซนอลและไรซ์ มาบรรจบกันนั่นก็เป็นอีกสัญญาณเตือนว่าในช่วงหลายปีต่อจากนี้ อาร์เซนอล เอาจริงและเต็มที่กับทุกสมรภูมิที่เข้าร่วมชิงชัย

บล็อกข่าวรายวัน ดีแคลน ไรซ์ นักเตะที่จะเข้าสู่ทีมด้วยค่าตัวที่สูงที่สุด ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

  • ตัดเกรดนักเตะ อาร์เซน่อล หลังปืนใหญ่ถล่มสิงห์บลูสุดสะเด่า 5-0 คลิ๊ก!!
  • นักเตะสุดห่วย ของ อาร์เซนอล ในแต่ละตำแหน่ง คลิ๊ก!!

  • อดีตแข้งดังเตือน อาร์เตต้า ว่า อาร์เซนอล อาจเป็นเหมือน สเปอร์ส คลิ๊ก!!

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *