ข่าววันนี้

ปีกผู้เป็นตำนาน อาร์เซนอล อันเดรย์ อาร์ชาวิน

ปีกผู้เป็นตำนาน อาร์เซนอล อันเดรย์ อาร์ชาวิน

หนึ่งในผู้เล่นที่แฟนบอล อาร์เซนอล จะะไม่มีวันลืม อันเดรย์ อาร์ชาวิน

พ่อมดแห่งแดนหมีขาวนาม อันเดรย์ อาร์ชาวิน (Andrey Arshavin) คือหนึ่งในผู้เล่นที่ถูกจับตามองมากที่สุด หลังทำผลงานยอดเยี่ยมในฟุตบอลยูโร ปี 2008 ด้วยการพาทีมชาติรัสเซียคว้าเหรียญทองแดงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และยังได้รับคำชื่นชมจากสื่อจนสามารถติดเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์นั้นได้โดยไร้ข้อกังขา จากผลงานอันโดดเด่นดังกล่าวทำให้เขาได้รับความสนใจจากยอดทีมในลีกยุโรปอย่างมากมาย อาทิ บาร์เซโลนา, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อินเตอร์ มิลาน และ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งล้วนต่างต้องการตัวเขาไปร่วมทีมด้วยกันทั้งนั้น

อย่างไรก็ดี ในท้ายที่สุดอาร์ชาวินเลือกย้ายซบยอดทีมแห่งกรุงลอนดอนอย่าง ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซนอล เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี 2009 ด้วยค่าตัว 16.5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 825 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการซื้อตัวที่แพงที่สุดของสโมสรอาร์เซนอลในตอนนั้นอีกด้วย ในช่วงแรกของการเล่น อาร์ชาวินยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ภายหลังสิ้นศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2008-09 ฟอร์มของเขาก็ตกต่ำลงจนน่าใจหาย ทั้งยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงภายในทีมได้อย่างถาวรอีกเลย แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับปีกพ่อมดผู้มากพรสวรรค์รายนี้ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เขามีผลงานย่ำแย่ทั้งที่ได้รับคำชื่นชมว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของยุโรปในสมัยนั้น วันนี้เรามีคำตอบกัน

อันเดรย์ อาร์ชาวิน

ปีกพ่อมดแห่งแดนหมีขาว

      อันเดร อาร์ชาวิน คือหนึ่งในผู้เล่นระดับตำนานของทีมชาติรัสเซีย เขาลงเล่นอาชีพครั้งแรกกับสโมสร เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (Zenit Saint Petersburg) ในปี 2000 และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์อย่างมากมาย เช่น รัสเซียน พรีเมียร์ลีก, ลีก คัพ, รัสเซียน ซูเปอร์ คัพ, ยูฟ่า คัพ และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ซึ่งช่วงเวลาที่ยังค้าแข้งอยู่กับ เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เขาได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลแห่งปีของรัสเซียอีกด้วย ต่อมาในปี 2008

      ชื่อเสียงของเขาเลื่องลือไปทั่วยุโรปอย่างรวดเร็วจากฟอร์มอันยอดเยี่ยม ทั้งยิงทั้งจ่ายในศึกยูโร พ่วงด้วยเทคนิคกระซากบอลเข้าสู่กรอบเขตโทษที่พลิ้วไหวจนหาตัวจับยาก และยังเคยหลอกล่อกองหลังระดับยุโรปจนหัวหมุนคนแล้วคนเล่า กับทัพปืนใหญ่เองช่วงแรกเขาโชว์ฟอร์มได้ดี และเกมที่อาร์ชาวินได้แสดงพิษสงของการเป็นยอดกองหน้าให้ทุกคนได้ประจักษ์เป็นเกมที่ อาร์เซนอล เปิดบ้านเสมอกับ ลิเวอร์พูล อย่างสุดมันส์ไป 4-4 ซึ่งอาร์ชาวินซัดคนเดียวถึง 4 ลูก

      ซึ่งมันได้กลายเป็นเกมแห่งความทรงจำระดับตำนานที่แฟนบอลเดอะกูนเนอร์สทุกคนยังคงกล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ดี อาร์ชาวินมีฤดูกาลแรกกับอาร์เซนอลอย่างน่าประทับใจ และถือได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดระหว่างเขากับอาร์เซนอลอีกด้วย

อันเดรย์ อาร์ชาวิน

จากช่วงรุ่งโรจน์ของ อันเดรย์ อาร์ชาวิน สู่การจมดิ่งในฟอร์มการเล่น

      ทุกอย่างคล้ายกำลังไปได้ดี จนกระทั้งหลังเริ่มฤดูกาล 2010-11 ได้ไม่นาน แฟนบอลอาร์เซนอลก็ต้องใจหายจากการเป็นสีหน้าผิดหวังและหมองเศร้าอย่างชัดเจนของอาร์ชาวินที่แสดงออกระหว่างนั่งเป็นตัวสำรอง เขามีอาการบาดเจ็บเล่นงานจนทำให้ถูกดรอปเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลต่อจังหวะการเล่นระหว่างเพื่อนร่วมทีมจนไม่เข้าใจกันในที่สุด และแม้จะมีบางจังหวะที่อาร์ชาวินวิ่งทำพื้นที่ได้ดี แต่เพื่อนร่วมทีมกลับไม่ส่งบอลให้เขา ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมทีมเหมือนก่อนอีกแล้ว แล้วทุกอย่างก็สิ้นสุดลงในฤดูกาล 2011-12 เพราะแม้เขาจะทำผลงานในสนามดีแค่ไหน สุดท้ายก็ถูกดรอปเป็นตัวสำรองอยู่ดี เท่านั้นยังไม่พอ เขายังถูกแฟนบอลบางกลุ่มโห่ไล่ระหว่างถูกเปลี่ยนตัวลงสนามอยู่บ่อยครั้ง

      เมื่อความกดดันสะสมเป็นเวลานานเข้า เขาจึงเริ่มหมดกำลังใจที่จะเล่นให้อาร์เซนอลซึ่งสะท้อนออกมาอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นไม่นานเขาจึงถูกปล่อยตัวกลับไปให้อดีตต้นสังกัดเก่าอย่างเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ยืมตัวในฤดูกาล 2011-12 ด้วยความคาดหวังว่ายอดทีมแห่งลีกบ้านเกิดจะดึงฟอร์มและทัศนคติในการเล่นฟุตบอลของเขากลับคืนมาได้ แต่เปล่าเลย

      มันกลับเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความล้มเหลวในอาชีพการค้าแข้งของเขาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเขาลงช่วยอดีตต้นสังกัดเก่าไปเพียง 10 นัด ซัดไป 3 ประตูเท่านั้น และด้วยผลงานที่ย่ำแย่ขนาดนี้ทำให้อาร์เซนอลตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับเขาในที่สุด

อันเดรย์ อาร์ชาวิน

ช่วงบั้นปลายการค้าแข้งของ อันเดรย์ อาร์ชาวิน

      ชะตากรรมของ อันเดรย์ อาร์ชาวิน ขึ้น ๆ ลง ๆ จากปีกพ่อมดแห่งแดนหมีขาวสู่การเป็นนักเตะพเนจรผู้ไม่อาจกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกเลยเพราะหลังออกจากอาร์เซนอล เขาลงช่วยเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ไป 3 ฤดูกาล ได้ลงเล่นเพียง 45 นัด ยิงประตูรวมทั้งหมดได้แค่ 6 ประตูเท่านั้น จากนั้นเขาจึงถูกสโมสร คูบาน คราสโนดาร์ (Kuban Krasnodar) ในลีกภูมิภาคของรัสเซีย ดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2015 ก่อนจะมาแขวนสตั๊ดกับ เอฟซี ไครัต (FC Kairat) ทีมดังจากลีกคาซัคสถาน ในปี 2018 ด้วยการลงเล่น 84 นัด ยิงได้ 24 ประตู

บล็อกข่าวรายวัน หนึ่งในผู้เล่นที่แฟนบอล อาร์เซนอล จะะไม่มีวันลืม อันเดรย์ อาร์ชาวิน

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

  • รวมประเด็นหลังจาก อาร์เซนอล ตกรอบยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก คลิ๊ก!!
  • อาร์เซนอล ควันหลงหลังเกมกับปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในรอบ 10 ปี คลิ๊ก!!
  • ตัดเกรดนักเตะ อาร์เซน่อล หลังปืนใหญ่ถล่มสิงห์บลูสุดสะเด่า 5-0  คลิ๊ก!!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *